หากพูดถึงประเทศเบลเยียม เชื่อว่าช็อกโกแลต เบียร์ และวาฟเฟิล มักจะเป็นสิ่งแรกที่ผุดขึ้นมาในใจของใครหลายๆ คน แต่นอกเหนือจากสามสิ่งที่กล่าวไปนี้ ยังมีของขึ้นชื่อประจำชาติเบลเยียมอีกหนึ่งสิ่งที่น้อยคนนักจะนึกถึง นั่นก็คือองค์ความรู้ด้านการตัดเย็บรองเท้าอย่างพิถีพิถันที่สั่งสมมากว่า 300 ปี ซึ่งกลายเป็นจุดกำเนิดของ Belgian Loafer รองเท้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น และยังคงได้รับความนิยมแม้จะผ่านกาลเวลามาหลายทศวรรษ
Belgian Loafer คืออะไร และถือกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร?
Belgian Loafer คือรองเท้าโลฟเฟอร์ชนิดหนึ่งที่มีส่วนปลายค่อนข้างเรียวเล็ก และมี Vamp รูปทรงอัลมอนด์ถูกเย็บไว้ด้านหน้าของรองเท้า ซึ่งเป็นดีไซน์ที่ค่อนข้างแตกต่างจากรองเท้าโลฟเฟอร์ประเภทอื่นๆ ประกอบกับวิธีตัดเย็บที่พิถีพิถันเป็นพิเศษ ทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของ Belgian Loafer จนสามารถเรียกได้ว่านี่คือ Classic Menswear ชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ อย่างไรก็ตาม แม้จะมีจุดเริ่มต้นมาจากองค์ความรู้ของเบลเยียม และถูกเรียกว่า Belgian Loafer แต่แท้จริงแล้วนี่คือรองเท้าสัญชาติอเมริกัน
ย้อนกลับไปในช่วงยุค 1940s เทคนิคการทำรองเท้าแฮนด์เมดของเบลเยียมที่สืบทอดกันมารุ่นสู่รุ่นในหมู่ช่างทำรองเท้าของเบลเยียมได้ไปถูกตาต้องใจ Henri Bendel นักธุรกิจชาวอเมริกันผู้ที่ทำให้ Coco Chanel โด่งดังในสหรัฐอเมริกา ด้วยเหตุนี้เขาจึงร่วมมือกับช่างทำรองเท้าเบลเยียม สร้างสรรค์รองเท้าชนิดใหม่ที่เรียบหรูและสวมใส่สบาย โดยอาศัยเทคนิค ‘Turned’ หรือการเย็บแบบกลับด้าน กล่าวคือช่างทำรองเท้าจะทำการเย็บชิ้นส่วน Upper ของรองเท้าเข้ากับส่วน Vamp จากนั้นจึงทำการ ‘พลิกกลับด้าน’ เพื่อให้ด้านที่เย็บเข้าไปอยู่ด้านในรองเท้า วิธีการนี้เป็นการการันตีว่ารอยเย็บทุกรอยจะประณีตไร้ที่ติ
ดีไซน์แรกเริ่มของ Belgian Loafer นั้นจะมีโบว์ชิ้นเล็กๆ ประดับอยู่บริเวณด้านบนของ Vamp ซึ่งภายหลังได้มีการปรับเปลี่ยนให้เป็นพู่ประดับ หรือในบางครั้งก็มีการตัดการตกแต่งนี้ออกไปเพื่อให้มินิมัลขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่เปลี่ยนไปเลยตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา คือส่วน Upper ของรองเท้าที่ทำจากหนังนิ่ม มีลักษณะยวบ ไม่ขึ้นทรงแข็ง (Unlined Shoes) ซึ่งช่วยให้รองเท้าโอบอุ้มเท้าของผู้สวมใส่ได้ไม่ต่างอะไรกับถุงมือ ส่วน Upper นี้เองที่เป็นเคล็ดลับของความสบายเมื่อสวมใส่ จนทำให้กลายเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงยุค 60s และความนิยมเหล่านั้นมาจากกลุ่มสุภาพบุรุษ
รองเท้าเรียบหรู มีสไตล์ที่ได้ความนิยมในหมู่สุภาพบุรุษ
ใช่แล้ว ‘สุภาพบุรุษ’! อาจเป็นข้อมูลที่ชวนให้แปลกใจอยู่บ้าง แต่เดิมที Belgian Loafer ถูกผลิตมาเพื่อสุภาพบุรุษ และมีระดับความเป็นทางการเทียบเท่ากับรองเท้าโลฟเฟอร์ชนิดอื่นๆ ดังนั้นในช่วงยุคทองของ Belgian Loafer เราจึงจะเห็นสุภาพบุรุษผู้ทรงอิทธิพลหรือผู้คนในสังคมชั้นสูง สวมใส่ Belgian Loafer กับสูทในลุคกึ่งทางการ และยังเป็นลุคที่สุภาพมากพอสำหรับการติดต่อธุรกิจ การนัดทานอาหาร การเข้าร่วมงานเลี้ยงค็อกเทล รวมถึงการไปทำงาน (แต่ไม่ทางการมากพอสำหรับงานพิธีการ)
ขอยกตัวอย่าง Laurence Harvey นักแสดงชื่อดังในชุดสูทลายตาราง (Plaid) สีน้ำตาลทับเสื้อคอเต่าสีเทา และรองเท้า Belgian Loafer ซึ่งถูกถ่ายภาพไว้ในขณะที่เดินทางถึงสนามบินในกรุงปารีส Tommy Hilfiger ผู้ก่อตั้งแบรนด์แฟชั่น Tom Hilfiger ในเสื้อเชิ้ตและกางเกงสีขาว คลุมด้วยเบลเซอร์สีดำ และสวม Belgian Loafer สีน้ำตาลเข้ม รวมถึง Lapo Elkann นักธุรกิจชาวอิตาลีที่มาในโททัลลุคสีแดงสด ตัดด้วย Belgian Loafer สีดำ
หรืออีกหนึ่งคนดังที่เรียกได้ว่าเป็น ‘King of Belgian Loafers’ ก็คือ Isaac Mizrahi ดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวอเมริกันที่มี Belgian Loafer มากกว่า 10 คู่ไว้ในครอบครอง และมักจะปรากฏตัวในพร้อม Belgian Loafer ในลุคที่หลากหลาย ตั้งแต่ลุคทางการเต็มพิกัดในชุดสูทกำมะหยี่สีกรมท่า ทับเสื้อเชิ้ตและเนกไทสีขาวสะอาดตา พร้อม Belgian Loafer สีดำ หรือลุคให้สัมภาษณ์รายการโทรทัศน์กับเสื้อเชิ้ตและเนกไทสีชมพู ทับด้วยชุดสูทสีเทา และ Belgian Loafer ในสีเข้าชุดกัน
จะเห็นได้ว่า Belgian Loafer นั้นเป็นรองเท้าที่เหล่าสุภาพบุรุษผู้ทรงอิทธิพลเลือกจะสวมใส่อย่างแพร่หลาย จนได้ฉายาว่า ‘รองเท้าที่สุภาพบุรุษควรมีไว้ติดตู้’ กันเลยทีเดียว
ทำไมจึงต้องมี Belgian Loafer ติดตู้ไว้สักคู่หนึ่ง?
ในเมื่อเป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมตั้งแต่ยุค 60s แล้วทำไมจึงต้องมี Belgian Loafer ติดตู้ไว้ในปัจจุบัน? ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า Belgian Loafer เป็นรองเท้าสุดคลาสสิกที่ไม่ได้เสื่อมความนิยมไปแต่อย่างใด แม้จะผ่านเวลามาหลายทศวรรษแล้วก็ตาม จะเห็นว่าบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคมปัจจุบันยังคงหยิบ Belgian Loafer มาสวมใส่ให้เห็นอยู่เสมอ ด้วยจ้อดีที่มีมากกว่าแค่การสวมใส่สบาย
- แมตช์ได้ทั้งลุคทางการและลุคแคชชวล
Belgian Loafer คือไอเท็มสุดคลาสสิกที่ช่วยเสริมให้ดูภูมิฐานและสง่างามในแบบสุภาพบุรุษ ยังเป็นดั่งสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความมีสไตล์ของผู้สวมใส่อีกด้วย แต่แม้จะมีสุภาพบุรุษหลายคนที่ปรากฏตัวในลุคทางการพร้อม Belgian Loafer กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถนำ Belgian Loafer มาแมตช์กับลุคแคชชวลในวันสบายๆ ได้
นอกจากลุคสมาร์ตแบบสบายๆ ของ Isaac Mizrahi ในเสื้อยืดแขนยาวสีดำกับกางเกงขากระบอกสีขาว และ Belgian Loafer แล้ว การแมตช์ลุคแคชชวลแบบมีสไตล์ของ Brendon Babenzien ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Noah ด้วยการสไตลิ่ง Belgian Loafer ลายเสื้อดาวเข้ากับเสื้อยืดและกางเกงยีนส์สีเข้มสุดเท่ ก็เป็นตัวอย่างที่ดีของการแมตช์ลุคแคชชวลด้วยไอเท็มอันมีเอกลักษณ์คู่นี้ และแสดงให้เห็นถึงความลงตัวกับสไตล์แมสคิวลีนได้เป็นอย่างดี
- สวมใส่ง่าย ใส่กับอะไรก็ลงตัว
ดังที่ยกตัวอย่างไปข้างต้นว่า Belgian Loafer สามารถแมตช์ได้ทั้งกับลุคสมาร์ตและลุคเท่ๆ นั่นเป็นเครื่องยืนยันว่าไอเท็มอายุเกือบร้อยปีนี้สามารถหยิบมาสวมใส่ได้ง่าย ไม่ว่าจะแต่งตัวสไตล์ใดก็ตาม และไม่เพียงแค่กางเกงขายาวเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาแมตช์กับกางเกงขาสั้นได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นลุคเสื้อเชิ้ตกับกางเกงขาสั้นทรงพอดีตัว หรือกางเกงยีนส์ขาสั้น เสื้อยืด และบอมเบอร์แจ็กเก็ต ก็ล้วนไปด้วยกันได้อย่างเพอร์เฟกต์ (และแน่นอนว่าจะเลือกใส่หรือไม่ใส่ถุงเท้าก็ได้ทั้งนั้น)
ดังนั้นแม้จะไม่ใช่คนที่ช่ำชองในการแต่งตัวก็ยังสามารถหยิบ Belgian Loafer มาใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลว่าลุคที่ได้จะพังไม่เป็นท่า โดยเฉพาะ Belgian Loafer ในยุคนี้ที่มีการปรับเรื่องของงานดีไซน์ให้มีความโมเดิร์นขึ้น โดยที่ยังคงกลิ่นอายของคลาสสิกพีซเอาไว้ หนึ่งในนั้นคือ Julietta Belgian Loafer (https://shopee.co.th/julietta.bkk/5438089954) รองเท้าที่เลือกใช้หนังลูกวัว (Calfskin) (https://shopee.co.th/julietta.bkk/21505168118) และหนังกลับ (Suede) (https://shopee.co.th/julietta.bkk/6638083314) เกรดพรีเมียม ซึ่งยังคงความเป็น Unlined Shoes อันเป็นเอกลักษณ์สุดคลาสสิกจากต้นฉบับเอาไว้ จึงสามารถโอบรับกับรูปเท้าได้ทันทีที่สวมใส่ครั้งแรก ทำให้สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายเท้า โดยไม่ต้องใช้เวลาในการทำให้หนังนิ่มและยืดหยุ่นเข้ากับรูปเท้า (Break-in)
รูปลักษณ์อันโมเดิร์นของ Belgian Loafer จาก Julietta นั้นมาจากความตั้งใจในการดีไซน์รองเท้าด้วยคอนเซ็ปต์ Classic & Contemporary Style ที่ลดทอนการประดับโบว์หรือพู่บริเวณหน้า Vamp ลง ร่วมกับการปรับส่วนของ Vamp ให้มีขนาดสั้นลงกว่าปกติ เกิดเป็น Belgian Loafer แบบมินิมัลที่มีลูกเล่นเพื่อเพิ่มมิติให้กับการแต่งตัว ด้วยการเผยให้เห็นดีเทลของถุงเท้าหรือผิวหนัง (ในกรณีที่ไม่ใส่ถุงเท้า) ทำให้ได้ความรู้สึกที่แปลกใหม่
และไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ช่ำชองในการสไตลิ่งลุคคลาสสิกอยู่แล้ว หรือจะเป็นผู้เริ่มต้นที่เพิ่งหันมาสนใจการแต่งตัวสไตล์ Classic Menswear ก็ตาม Julietta Belgian Loafer (https://shopee.co.th/julietta.bkk/19736404029) ก็นับว่าเป็นไอเท็มที่จะช่วยเพิ่มความเรียบหรูดูดีในแบบฉบับผู้ชายยุโรปให้กับลุค อีกทั้งยังสามารถหยิบมาสวมใส่ได้ในทุกสไตล์การแต่งตัว ซึ่งจะทำให้การแต่งตัวของคุณจะสนุกขึ้นอย่างแน่นอน